Thursday, June 13, 2013

Running Event 2013-06-09 : ลากูน่าภูเก็ตมาราธอนนานาชาติ™ 2556

การเดินทางอันยาวนาน

งานนี้มากับ "เรื่องวิ่งเรื่องกล้วย" โดยมี น้องสาว "อุ๊ย" และ น้องที่ทำงาน "ยอด" ร่วมทางมาด้วย โดยอุ๊ยวิ่ง mini marathon (10k) ส่วนผมและยอดวิ่ง half marathon (21k) เป็นครั้งแรกทั้งคู่

2 ทุ่มวันศุกร์ ขึ้นรถที่ ถ.วิทยุ และนั่งรถบัสอย่างยาวนาน แวะกินข้าวเช้าที่ร้านวังกุ้ง ที่สุราษฏร์ธานี ไหว้หลวงพ่อแช่มที่วัดไชยธาราราม แล้วกลับไปจัดข้าวกลางวันที่ร้านระย้า อ.เมือง ภูเก็ต ถึงที่พัก At Panta ประมาณบ่ายสามโมง มีเวลาจัดการธุระส่วนตัว 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวไปรับเสื้อ Bib และ Chip ที่งาน Expo

ที่งาน Expo คนเยอะและวุ่นวายพอสมควร แต่เราได้รับเบอร์มาแล้ว บอร์ดไม่ต้องดู สบาย… เสียตรงที่ลืมเอาปากกามา ทำให้ต้องเข้าคิวรอสัมปทานปากกา เพื่อที่จะเขียนใบอะไรนะ น่าจะเป็นใบแจ้งสละสิทธิในการทำอะไรซักอย่างนี่แหละ ประมาณถ้าเราตายจะไม่ฟ้องผู้จัดงานมั้ง ได้ Bib (M 1441) Chip และเสื้อเรียบร้อย ก็ถึงคิวต้องซื้อของที่มีเพื่อน ๆ ฝากมา นั่นคือ แก้วน้ำใบไม้สุดน่ารักของงานนี้นั่นเอง เหมาไป 10 อัน เผื่อแจกคนอื่นด้วย

บรรยากาศยามเย็นที่ลากูน่า
จากนั้นก็รอไป Pasta Party เพื่ออัดคาร์บ แต่ก็อัดไม่ได้เท่าไหร่ เพราะกินที่ระย้ามาอิ่มมาก ได้แค่ไหนแค่นั้น กินอิ่มมากเกินก็จะแย่เอา พอกลับถึงที่พักก็จัดเตรียมอุปกรณ์ ติด chip ที่รองเท้า และติด Bib ที่เสื้อให้เรียบร้อย แล้วก็นอน...

แอบตื่นเต้น

น้องสาวตั้งปลุกไว้ 3.30 ก็ได้ยินนะ ยังแอบอู้เพราะตัวเองตั้งปลุกไว้ 3.45 และ 4.00 แต่ก็นอนไม่หลับหรอก แอบตื่นเต้น เพราะจะได้วิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก ที่รอมาตั้งหลายเดือนซะทีแล้ว ก็เลยตื่นมาแปรงฟัน แต่งตัว กินกล้วยที่ตุนมาจาก Pasta Party เมื่อคืนที่ผ่านมา และเตรียมตัวออกไปขึ้นรถตามเวลานัด ปรากฏว่า... ฝนตกพรำ ๆ แต่ถึงเวลานัดแล้วนี่ ก็ฝ่าฝนไปดิ นิดเดียวคงไม่เป็นไร ได้รับชุดอาหารเช้ามา 1 ถุง ประกอบด้วย ครัวซอง 2 ชิ้น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1 ลูก น้ำผลไม้ 1 กล่อง นม 1 กล่อง แต่กินไม่หมดเพราะกลัวว่าจะจุก

เริ่มวิ่ง

มาถึงงานตีห้ากว่า ๆ ไม่ช้าไม่เร็ว ระหว่างรอเช็คอินก็วอร์มอัพไปเรื่อย ๆ โดยการวิ่งเหยาะ ๆ สลับเดิน พอใกล้ถึงเวลาเข้าจุดสตาร์ท จัดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้พร้อมใช้งาน แล้วก็เดินเข้าจุดสตาร์ทไปอย่างมั่นใจ Forerunner 10 กด Start แป๊บเดียวก็พร้อมใช้งาน คงเพราะมันเป็นที่โล่ง

เมื่อนับถอยหลังเรียบร้อย ค่อย ๆ เดินจนถึงเส้นสตาร์ทแล้วก็เริ่มออกวิ่ง รู้สึกว่าสภาพร่างกายวันนี้ดีจัง ท่าทางจะวิ่งได้ดี

ซุ่มโจมตี

ปรกติผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีปัญหากับการขับถ่าย และไม่ค่อยจะถ่ายตอนเช้าเท่าไหร่ แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น วิ่งได้ประมาณกิโลเมตรกว่า ๆ รู้สึกเหมือนโงกุนโดนจับหาง ขนลุกเกรียว แรง เริงหายหมด เนื่องจากข้าศึกบุกค่อนข้างประชิดเมืองทีเดียว ก็ต้องตัดสินใจว่า เอายังไงดี ห้องน้ำก็ไม่ค่อยมีตามทาง จะยอมแพ้ดีมั้ย ใจคิดอยู่หลายตลบ แต่นี่เป็นฮาล์ฟแรกนะ ดังนั้น ยอมไม่ได้ เอ้า สู้ต่อ! ทนไป พอวิ่งอย่างอ่อนแรงไปได้สักพักอาการก็ดีขึ้น รอดตัวไป

ชุ่มฉ่ำ

หลังจากวิ่งถึงจุดกลับตัวที่ ก.ม.8 สภาพกล้ามเนื้อยังดี แรงยังเหลือ ก็ยังวิ่งต่อไปได้เรื่อย ๆ หยุดพักตามซุ้มให้น้ำ แดดออกแต่ก็ไม่ได้ร้อนมาก ทันยอดแถว ๆ ก.ม.9 พอวิ่งมาถึงรถห้องน้ำ (น่าจะประมาณ ก.ม. 10) ก็ขึ้นไปเบาซะหน่อย เหลืออีกครึ่งทาง จะได้ไม่ต้องลำบากถ้าจำเป็นต้องระบาย คิดว่าจังหวะเข้าห้องน้ำนี่แหละที่ยอดน่าจะแซงผมไป เลี้ยวขวาออกจากถนนใหญ่ ประมาณ ก.ม. 12 มีฝนโปรยเบา ๆ พอให้ผ่อนคลายจากความร้อนได้บ้าง แต่สงสัยจะผ่อนมากไปหน่อยด้วยการเดินบ้าง วิ่งบ้าง ไปเรื่อย ๆ ตามทาง



กิโลเมตรที่ 15 แล้ว

ฟื้นพลัง

เมื่อแรงเริ่มร่อยหรอ แต่ไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็เดินสลับวิ่งเพราะไม่อยากฝืนมากเกินไปกับฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก สวรรค์มาเยือนที่ ก.ม.16 เป็นซุ้มที่มีทั้งน้ำ และเกเตอเรด ซัดทั้งสองอย่างพอให้สดชื่น แรงกลับมาทำให้วิ่งได้สบาย ๆ อีกครั้ง


อีก 3 กิโลเมตร

ตะคริว

หลังจากคลาดกับยอดเนื่องจากแวะเข้าห้องน้ำ ที่ ก.ม.10 ก็คิดว่ายอดคงวิ่งลิ่วเข้าเส้นชัยไปแล้ว แต่พอวิ่งมาถึง ก.ม.19 เห็นคนนั่งตัวงออยู่ พร้อมน้องทีมงานจัดการแข่งขัน อ้าว! ยอดนี่หว่า ก็เดินเข้าไปดูสอบถามได้ความว่าเริ่มเป็นตะคริวตั้งแต่ ก.ม.17 ทนมาเรื่อย ๆ จนเป็นหนักถึงขั้นลุกไม่ไหวที่ ก.ม.19 นี่แหละ เห็นมีน้องทีมงานช่วยดูแล ก็เลยว่าจะวิ่งเข้าเส้นชัยไปก่อน คิดอีกที อะ เดินเป็นเพื่อนยอดซักพักก่อนดีกว่า ก็เลยเดินคู่กันไปกิโลกว่า ๆ ดูแล้วยอดน่าจะเดินถึง ผมจึงออกวิ่งต่อ



วิ่งไปยิ้มไป

ฟิน… แต่ไม่สุด

ระยะทาง 1 กิโลเมตรสุดท้าย ช่างหวานหอม วิ่งสบาย ๆ ผ่านนักเดินเพื่อสุขภาพไปคนแล้วคนเล่า (ก็เค้าเดินไม่ได้วิ่งนี่) วิ่งไปยิ้มไปตลอดทาง จนถึงซอง FINISH รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล แบบว่ามันซึ้งอะ เฮ้ย เราก็ทำได้ ฮาล์ฟมาราธอน แถมวิ่งสบาย ๆ ในเวลา 3 ชั่วโมง พยายามเล็งหาช่างภาพ เห็นหลายกล้องเหลือเกิน เก๊กไม่ถูก ก็เลยวิ่งยิ้มไปเรื่อย ๆ จนเข้าเส้นชัยพร้อมชูกำปั้น "กูทำได้แล้ว!" เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายจริง ๆ ซ้อมมาหลายเดือน สำเร็จแล้วโว้ย!


จากนั้นก็ไปคืน chip และเดินหาเหรียญเงิน สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จในครั้งนี้ เดินไปเดินมาได้คำตอบว่า "เหรียญหมด" ความฟินเมื่อกี๊มันหายไปเกลี้ยงเลย แง้ เหรียญตู ได้ยินน้องทีมงานบอกว่ามีผู้สมัคร Walk-in เยอะจนเกินจำนวนเหรียญ อืม… ผมก็ต้องทำใจนะ วิ่งช้ากว่าเค้า อดเหรียญ ณ จุดนี้ แต่ไม่เป็นไร รอเค้าส่งมาให้ก็ได้

หลังจากนั้นก็ไปเก็บของที่ที่พักและไปเที่ยวรอเวลาเดินทางกลับ อ้อ! ผมลืมของไว้ที่ At Panta ด้วย แต่คุณกิ๊บ สาวน้อยผู้ใจดีช่วยเก็บขึ้นมาคืนให้ที่กรุงเทพฯ ขอแสดงว่าซึ้งใจไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับผม

ผลการวิ่ง


http://app.strava.com/activities/59935315

2 comments:

  1. ยินดีกับฮาล์ฟแรกด้วยนะคะ ^_^

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณครับคุณฮั้ว ^_^

      Delete