Saturday, June 22, 2013

Running Event 2013-06-23 : ธัญญารักษ์มินิมาราธอน

อลังการงานวิ่ง

ที่จริงแล้ววันนี้ตั้งใจจะไปวิ่งงานดอกบัวคู่ แต่สมัครไม่ทัน เลยหาโปรแกรมอื่นวิ่งแทน ลงตัวที่ ธัญญารักษ์มินิมาราธอน ครั้งที่ 15 งานจัดที่สถาบันธัญญารักษ์ ใกล้ ๆ นี่เอง ตื่นตี 4 วิ่งตามถนนวิภาวดี-รังสิต ไปเรื่อย ๆ พอเลยฐานทัพอากาศไปก็เตรียมชิดซ้าย เพื่อกลับรถใต้สะพาน เห็นงานแต่ไกลเลย เพราะเจ้านี่แหละ ชัดเจนมาก ตั้งแต่ฝั่งตรงข้าม ไม่ต้องกลัวหลง แต่... มาถูกงานมั้ยนะ

อลังการงานวิ่ง มีไฟหมุนด้วย

ซอยยิบ

มาถึงก่อนตี 5 แต่ก็มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเรื่องการจราจรและการจอดรถพร้อม ที่จอดรถก็มีเยอะพอสมควรนะ แต่ผมไม่ชอบวนหานาน ก็เลยมาเช้าหน่อย เผื่ออบอุ่นร่างกายด้วย หลังจากสมัครวิ่ง 10 กิโลเรียบร้อย ก็เดินเอาเสื้อที่ระลึกไปเก็บที่รถ พร้อมติด Bib ที่เสื้อวิ่งสีส้มตัวเก่ง วันนี้ได้เบอร์ 70 รุ่น 35-39 (เค้าซอยรุ่นยิบมาก ดูจากใบเสร็จรับเงินได้) สถานที่กว้างขวาง มีที่วิ่งเหยาะ ยืดเหยียดมากมาย เพียงพอสำหรับนักวิ่งทุกคน มีรถสุขา 2 หรือ 3 คันนี่แหละ ผมก็ใช้บริการไป 1 ครั้งก่อนเข้าไป Check-in

เสื้อที่ระลึก, Bib และใบเสร็จซอยยิบ

สนามกว้าง วิ่งวอร์มอัพกันสนุกเลย

จะทันมั้ยนะ

เคยอ่านเจอคนบ่นว่างานนี้พิธีการเยอะ เยิ่นเย้อ ชักช้า ผมสำหรับผม หลังจากเข้าไป Check-in แล้วก็รู้สึกว่าไม่นานมากก็ปล่อยตัวครับ หรือทางผู้จัดอาจจะปรับปรุงแล้ว เพราะได้รับคำติชมจากนักวิ่ง ^_^ ดีครับ

เคยอ่านเจอ (อีกเหมือนกัน) ว่ามีการจำกัดเหรียญให้ 800 คนแรก แอบเครียดนิด ๆ ว่าจะวิ่งทันคนอื่นเค้ามั้ย เลยตั้ง Virtual Pace ไว้ที่ 7 นาที (ปรกติวิ่งช้ากว่านี้อีก แหะ ๆ) พอเริ่มออกตัวก็วิ่งไปดู Pace ไปพบว่า 7 นาทีสงสัยจะช้าไป เพราะโดนแซงสะบั้นเลย จึงเร่งอีกนิดเพื่อพยายามรักษาระดับไว้ที่ประมาณ 6 นาที ถึง 6 นาทีครึ่ง ก็คิดว่าถ้าวิ่งเท่านี้แล้วยังเข้าไม่ทันเหรียญก็ช่างมัน ไม่อยากจะฝืนมาก สัปดาห์หน้ามีฮาล์ฟที่สุโขทัยรออยู่ อูย....

นักวิ่งเยอะเหมือนกัน แต่ไม่มากเพราะชนกันหลายงาน


หลุด

วิ่งไปได้ 1.3 กิโล ก็ต้องหยุด ไม่ใช่หมดแรงครับ อย่า อย่าเพิ่งคิดอย่างน้านนน หยุดเพราะเชือกรองเท้าข้างซ้ายมันหลุด ก็ว่าผูกดีแล้วนะ ทำไมหลุดได้ เลยต้องหยุดและหลบเพื่อผูกให้เรียบร้อยก่อนวิ่งต่อ เลยได้ถ่ายรูป เด็กแว้นปิด Super Highway วิ่งกัน

ปิด Super Highway วิ่งเลย เจ๋งป้ะ!

เส้นทางวิ่งในฝัน

เป็นงานที่ปิดถนนได้เยี่ยมสุด ๆ เลย (ขออภัยผู้ใช้ถนนท่านอื่นด้วยครับ) ไม่ต้องพะวงว่าจะมีรถเฉี่ยว รถชน เพราะวิ่งกันอยู่ในช่องทาง Super Highway ที่มีรั้วกั้นทั้งสองด้าน ปลอดภัยหายห่วงครับ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวพอ

งานนี้ผมพก Hydration Belt มาด้วย (ปรกติจะเรียกเข็มขัดกระติกน้ำ แต่น้องสาวแซว เลยเรียกชื่อเท่ ๆ ของมันบ้าง) เลยไม่ได้พึ่งพาสถานีให้น้ำของที่นี่สักเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกต พบว่าเค้าวางระยะแปลก ๆ ขนาด ๆ เกิน ๆ ยังไงไม่รู้ แต่ก็มีน้ำให้ดื่ม ไม่ขาดตกบกพร่องนะครับ เยี่ยมครับ

พอวิ่งมาจนใกล้ถึงที่กลับตัวของนักวิ่ง 5 กิโล ก็เลยคิดได้ว่า อ้อ... คนที่แซง ๆ เราไปนั้น เค้าอาจจะวิ่ง 5 กิโลมั้ง ก็ถึงว่าวิ่งกันฉิวเลย ตกใจแทบแย่ แต่ผมก็ยังรักษา Pace ไว้ที่เท่าเดิมแหละ ลองดูว่าจะวิ่งไหวไหม หลังจากได้กลับตัวบ้าง ก็รู้สึกว่าร่างกายยังวิ่งได้สบาย ๆ นะ ด้วยระดับนี้ ก็เลยวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ มีเผลอวิ่งเร็วบ้างจนเหนื่อย ก็ผ่อนลง แล้วกลับมารักษาระดับใหม่ ก็ยังได้อยู่ งานนี้วิ่งโดยไม่หยุดเดินเลย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณผู้จัดงานที่เลือกเส้นทาง และประสานงานปิดการจราจรได้ดีมาก วิ่งสบาย ไม่มีติดขัดเลยครับ

เข้าเส้น

หลังจากเข้าเส้นชัย เจอเจ้าตัวเล็กตัวนี้ด้วย แสดงว่า... ใช่ครับ เค้าวิ่งเร็วกว่าผม แง่งงงง เจอคราวหน้าจะวิ่งไล่กัดตูดให้ทันให้ได้
วิ่งไวเหมือนกันนะเรา

มีบูทของ Brooks ถ้าใครใส่รองเท้า Brooks มา จะได้อะไรนะ... ลืมไปแล้ว ส่วนที่เห็นลู่วิ่งนั่น เค้าเอามาให้เราลองวิ่งบนเครื่องดู เพื่อที่จะถ่ายคลิป และตรวจดูว่าการวิ่งของเราเหมาะสมกับรองเท้าแบบใด ซึ่งก็จะมีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำรุ่นให้

Brooks
แนะนำรุ่นรองเท้าต่าง ๆ

สถิติยังไม่ถูกทำลาย

งานนี้วิ่งได้ระยะทาง 9.4 กิโลเมตร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 47 วินาที คิดว่ายังมีแรงเหลือพอที่จะวิ่งอีกกิโลด้วยเวลา 6 นาที แม้จะยังไม่ทำลายสถิติของตัวเอง แต่ก็ถือว่าวิ่งได้ใกล้เคียงสถิติดีสุดของตัวเองแล้ว ไม่เลวครับงานนี้ ปีหน้าคิดว่าจะมาอีกเพราะทำเวลาได้สะใจดี ^_^

ได้เหรียญกะเค้าด้วย

สถิติวันนี้



Monday, June 17, 2013

Running Event 2013-06-16 : The Columbia Trail Masters 2013 (Episode V)

Columbia Trail Masters 2013 (Episode V) จัดที่เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี ตอนที่เห็นใบปลิวครั้งแรกเห็นชื่อสถานที่ภาษาอังกฤษ ผมอ่านเป็นเขาไม้เขียว นึกว่าสะกดผิด คิดว่าจัดที่เขาเขียว แต่ลองหาในแผนที่เจอเขาไม้แก้ว จึงได้รู้ว่าเค้าสะกดถูกแล้ว แปร่ว...

Adidas Kanadia 5 Trail
ก่อนงานวิ่ง 4 วัน (วันพุธ) คิดได้ว่าเราน่าจะซื้อรองเท้าสำหรับวิ่งเทรลใส่นะ เลยรีบ ๆ ลน ๆ ได้เจ้านี่มา หน้าตาดุดี ลองวิ่งเช้าวันพฤหัสบดีที่สวนรถไฟ โดยวิ่งบนทางเรียบปรกติ พบว่าก็พอวิ่งได้ แต่พื้นแข็งนิดหน่อย ตามประสารองเท้าสำหรับวิ่งเทรล

ออกเดินทาง

รอบนี้ไปกัน 5 คน แต่วิ่งแค่ 4 ผม ยอด ก้อย และ พี วิ่งระยะเดียวกันหมดคือ 10k Trail โดยเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปกินข้าวเช้า (มั้ย) ที่จุดพักกลาง Motor Way จากนั้นก็กะจะไปกินกลางวันที่ Mimosa ซึ่งก็ยังอิ่มจาก McDonald's ที่ Motor Way อยู่พอสมควร จึงต้องเดินถ่ายรูปเล่นรอให้หิวอีกรอบจึงค่อยไปกิน

สีสันสดใสที่ Mimosa

อิ่มแปร้จาก Mimosa เรียบร้อย น่าจะเกือบ 4 โมงเย็น รีบขับรถไปที่งาน Expo โดยด่วน เพราะตามตารางเวลาเค้าแจ้งว่าปิด 5 โมงเย็น แต่ก็ไปถึงงานได้ก่อนเวลาปิดแหละนะ ได้รับ Bib, Chip แบบติดกับ Bib และเสื้้อเป็นที่เรียบร้อย อ้อ! มี Sweatband แจกด้วย เดินเจอบูธสุโขทัยมาราธอน ของ ยูนิครันนิ่ง เลยได้ฤกษ์สมัครฮาล์ฟมาราธอนไปซะเลย ก่อนหน้านี้ยังไม่แน่ใจว่าจะลงฮาล์ฟหรือมินิดี แต่ก็นะ จัดฮาล์ฟไปเลย คิดว่าอย่างมากก็คลานเข้าเส้นชัยวะ

เพิ่งเคยได้ใช้ Chip แบบติดกับ Bib

ได้แจก Sweatband ด้วย ขอบคุณ Columbia ครับ

สมัครไปแว้ว ฮาล์ฟ งาน สุโขทัย มาราธอน


เสร็จธุระที่งาน Expo ก็เดินทางไปที่พัก ที่ Way Hotel และตอนไปที่ Way Hotel นี่แหละ ทำให้เจอข้อผิดพลาดของ Google Maps เนื่องจาก Google Maps ปักจุดผิดพลาด ต้องโทรไปสอบถามทางโรงแรมว่าไปทางไหน ถึงจะไปเข้าที่พักได้เป็นอันเรียบร้อย

Shake Out Run

เข้าที่พักแล้วก็รีบแต่งตัวไปวิ่ง 15 นาทีให้เลือดไหลเวียนและร่างกายตื่นตัวพร้อมวิ่งในวันรุ่งขึ้น ที่ชายหาดสั้น ๆ ของ Garden Seaview Hotel (เครือ The Zign เช่นเดียวกับ Way Hotel) วิ่งวนไปวนมาบนหาดทราย เพื่อทดสอบการใช้งานรองเท้า Trail อีกครั้ง พบว่าวิ่งบนทรายแน่น ๆ ได้สบายมาก วิ่งเสร็จพักสักครู่จึงเดินออกไปหาของกิน ได้กล้วยตากมาไว้กินตอนเช้าก่อนวิ่งด้วย

ชุ่มฉ่ำแต่เช้า

ตื่นประมาณ ตี 4 แต่งตัวเรียบร้อย รอพลพรรคครบทุกคนแล้วก็ลงไปที่รถ จึงเห็นว่าฝนตกอยู่ ระหว่างทางไปงาน เห็นน้ำท่วมหลายจุด คิดว่าน่าจะเป็นช่วงตีนเขา น้ำไหลลงมาจากเขาไม้แก้วมากองอยู่ด้านล่าง พอเริ่มขึ้นเขาไปก็ไม่ค่อยมีน้ำขังแล้ว ไปถึงงานเรียบร้อย ลงรถก็ใส่หมวกได้เลย เพราะฝนตกปรอย ๆ ตลอดเวลา

เหล่านักวิ่งไม่มีกลัวฝนอยู่แล้ว

สงสัยจะมาเร็วไปหน่อย เจอนักวิ่งป้ายเหลือง (50k) และป้ายแดง (25k) ซะมาก ไอ้เราป้ายน้ำเงิน (10k) มาซะเช้า ไม่ค่อยเห็นเพื่อนวิ่งระยะเดียวกันเท่าไหร่ ก่อนถึงเวลาออกตัวของ 50k โฆษกประกาศว่ามีต้นไม้ล้มขวางทางวิ่งอยู่ ขอเวลาเคลียร์ 15 นาที และแล้วเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็ได้ยืนส่ง นักวิ่ง 50k และ 25k ตามลำดับ

ออกตัว

ฝนหยุดก่อนออกตัว 10k ไม่นานนัก ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี แต่ถึงฝนหยุดแล้วอากาศก็ยังเย็นสบายอยู่ นับว่าไม่ต้องกังวลอะไร แม้ว่าจะออกตัว 7 โมงเช้าก็ตาม เอ้าเริ่มวิ่งได้ ปู๊นนน~~~

Gathering of 10k Trailers

เทรลแท้

ช่วงแรก ๆ ของการวิ่งเป็นถนนเรียบ ๆ ธรรมดา เหมือนงานวิ่งอื่น ๆ แต่พอเลี้ยวเข้าหาเขาเท่านั้นแหละ ว้าววว เทรลรันนิ่งของแท้เลย เขียวชะอุ่ม วิ่งในป่าสดชื่นสุด ๆ ไม่มีควันรถ แดดก็ไม่ค่อยจะส่องถึงตัวเพราะมีต้นไม้บังตลอดทาง

เขียวสุด ๆ


ถ้าวิ่งถูกทาง จะเห็นริบบิ้นสีส้มนี้ไปเรื่อย ๆ

ช่วงแรก ๆ คนเยอะ แซงลำบาก เพราะทางวิ่งแคบ เลยวิ่ง ๆ เดิน ๆ ตาม ๆ กันไปเรื่อย ๆ บรรยากาศประมาณนี้



ผมมัวแต่วิ่ง ๆ เดิน ๆ ถ่ายรูป ปล่อยให้เพื่อน ๆ นำไปก่อน พอได้วิ่งทำความเร็วบ้าง ก็เจอยอดก่อนถึงจุดรับน้ำหนึ่งเดียวของระยะ 10k เล็กน้อย ยอดอาจจะยังเจ็บจากฮาล์ฟมาราธอนที่แล้ว จึงต้องถนอมตัวหน่อย ผมจึงวิ่งนำไป

สถานีน้ำหนึ่งเดียว

พอทราบว่ามีจุดรับน้ำสำหรับระยะ 10k มีแค่จุดเดียวก็แอบกังวลนิด ๆ ว่าเราจะมีน้ำกินพอมั้ย แต่พอวิ่งจริง ถึงจุดรับน้ำแล้วกินน้ำในขวดที่พกมาหมดไปไม่ถึง 25% เลยไม่ได้หยุดรับน้ำ คิดว่าที่เหลืออยู่น่าจะพอสำหรับอีกครึ่งทางที่ต้องวิ่งต่อ

โดดเดี่ยวในป่าใหญ่

จริง ๆ ก็ไม่ถึงกับโดดเดี่ยวหรอก เพียงแต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ข้างหน้าค่อนข้างห่าง และข้างหลังมองไม่เห็นใคร เลยรู้สึกคล้าย ๆ กับวิ่งอยู่ในเดียวในป่า ตราบใดที่ยังวิ่งแล้วเจอริบบิ้นสีส้มอยู่เรื่อย ๆ ก็ยังอุ่นใจได้อยู่

หลังโล่ง ไม่มีใครวิ่งตามมาเลย กึ๋ย

ล้มลุก

ประมาณกิโลเมตรที่ 9 นิด ๆ มีต้นไม้ใหญ่ขวางทางวิ่งอยู่ ใหญ่ขนาดที่ไม่สามารถก้าว หรือกระโดดเบา ๆ ข้ามได้ ทำให้ต้องปีน แรงยังพอปีนได้ก็ปีน เหยียบและโดดลง และรีบออกตัววิ่งต่อ แต่ดันมีกิ่งไม้เกี่ยวเท้าขวาอยู่ ทำให้ล้มหน้าทิ่ม แอบอาย แต่คาดว่าไม่มีใครเห็น ตรวจสอบคร่าว ๆ ไม่พบอาการบาดเจ็บอะไรก็ออกวิ่งต่อไปเนียน ๆ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น

เชิญคุณก่อน

ก่อนถึงเส้นชัยเล็กน้อย นักวิ่งสาวที่วิ่งนำผมมาในช่วงประมาณ 1 กิโลเมตรก่อนหน้านี้ เหมือนจะเหนื่อย วิ่งช้าลง ให้สัญญาณมือบอกให้ผมแซง แต่ผมดูแล้วคิดว่าเธอน่าจะยังมีแรงวิ่งอยู่แหละ ผมเลยบอกให้เธอวิ่งเข้าเส้นชัยก่อน ไหน ๆ เธอก็นำมาจนเกือบถึงเส้นชัยอยู่แล้ว นำต่อให้จบเลยดีกว่า

ถึงเส้นชัย

กล้องหน้า Sony Xperia V มันจะห่วยไปไหน

ผมเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 36 นาที โดยประมาณ ต้องบอกว่าประมาณ เพราะลืมกดหยุดนาฬิกาอีกแล้ว นับว่าเป็นเวลาที่ไม่เลวนักสำหรับผม เพราะเป็นการวิ่งที่ค่อนข้างวิบากทีเดียวหละ หลังจากเข้าเส้นชัยได้กินเครื่องดื่มเกลือแร่บ้างก็ดีเหมือนกัน ซัดไป 3 ขวด ขอบคุณ Synergy ครับ


Synergy อร่อยและสดชื่นจริง ๆ


หลังจากวิ่งพบว่าการใช้รองเท้าสำหรับวิ่งเทรลโดยเฉพาะนั้นดีจริง ๆ ถ้าใช้ Nike LunarEclipse+ 3 มาวิ่งสงสัยผมจะหัวทิ่มตั้งแต่กิโลแรก ๆ นอกจากปุ่มสำหรับจิกพื้นแล้ว รองเท้าเทรลยังมีหัวรองเท้าแข็งสำหรับป้องกันการบาดเจ็บจากการเตะโดนอะไรแข็ง ๆ อีกด้วย ระหว่างวิ่งผมรู้สึกว่าเตะโดนหินไปหลายก้อน รอดมาได้เพราะ Guard หน้ารองเท้านี่แหละครับ ไม่งั้นมีเจ็บแน่นอน

ตอนนี้ติดใจการวิ่งเทรลมาก ถ้ามีงานไหนจัดอีกคงต้องรีบลงตารางเวลาเพื่อวิ่งงานนั้นให้ได้ ขอบคุณ Columbia ที่จัดงานวิ่งดี ๆ แบบนี้ครับ ขอให้จัดอีกเรื่อย ๆ นะครับ ^_^




Thursday, June 13, 2013

Running Event 2013-06-09 : ลากูน่าภูเก็ตมาราธอนนานาชาติ™ 2556

การเดินทางอันยาวนาน

งานนี้มากับ "เรื่องวิ่งเรื่องกล้วย" โดยมี น้องสาว "อุ๊ย" และ น้องที่ทำงาน "ยอด" ร่วมทางมาด้วย โดยอุ๊ยวิ่ง mini marathon (10k) ส่วนผมและยอดวิ่ง half marathon (21k) เป็นครั้งแรกทั้งคู่

2 ทุ่มวันศุกร์ ขึ้นรถที่ ถ.วิทยุ และนั่งรถบัสอย่างยาวนาน แวะกินข้าวเช้าที่ร้านวังกุ้ง ที่สุราษฏร์ธานี ไหว้หลวงพ่อแช่มที่วัดไชยธาราราม แล้วกลับไปจัดข้าวกลางวันที่ร้านระย้า อ.เมือง ภูเก็ต ถึงที่พัก At Panta ประมาณบ่ายสามโมง มีเวลาจัดการธุระส่วนตัว 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวไปรับเสื้อ Bib และ Chip ที่งาน Expo

ที่งาน Expo คนเยอะและวุ่นวายพอสมควร แต่เราได้รับเบอร์มาแล้ว บอร์ดไม่ต้องดู สบาย… เสียตรงที่ลืมเอาปากกามา ทำให้ต้องเข้าคิวรอสัมปทานปากกา เพื่อที่จะเขียนใบอะไรนะ น่าจะเป็นใบแจ้งสละสิทธิในการทำอะไรซักอย่างนี่แหละ ประมาณถ้าเราตายจะไม่ฟ้องผู้จัดงานมั้ง ได้ Bib (M 1441) Chip และเสื้อเรียบร้อย ก็ถึงคิวต้องซื้อของที่มีเพื่อน ๆ ฝากมา นั่นคือ แก้วน้ำใบไม้สุดน่ารักของงานนี้นั่นเอง เหมาไป 10 อัน เผื่อแจกคนอื่นด้วย

บรรยากาศยามเย็นที่ลากูน่า
จากนั้นก็รอไป Pasta Party เพื่ออัดคาร์บ แต่ก็อัดไม่ได้เท่าไหร่ เพราะกินที่ระย้ามาอิ่มมาก ได้แค่ไหนแค่นั้น กินอิ่มมากเกินก็จะแย่เอา พอกลับถึงที่พักก็จัดเตรียมอุปกรณ์ ติด chip ที่รองเท้า และติด Bib ที่เสื้อให้เรียบร้อย แล้วก็นอน...

แอบตื่นเต้น

น้องสาวตั้งปลุกไว้ 3.30 ก็ได้ยินนะ ยังแอบอู้เพราะตัวเองตั้งปลุกไว้ 3.45 และ 4.00 แต่ก็นอนไม่หลับหรอก แอบตื่นเต้น เพราะจะได้วิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก ที่รอมาตั้งหลายเดือนซะทีแล้ว ก็เลยตื่นมาแปรงฟัน แต่งตัว กินกล้วยที่ตุนมาจาก Pasta Party เมื่อคืนที่ผ่านมา และเตรียมตัวออกไปขึ้นรถตามเวลานัด ปรากฏว่า... ฝนตกพรำ ๆ แต่ถึงเวลานัดแล้วนี่ ก็ฝ่าฝนไปดิ นิดเดียวคงไม่เป็นไร ได้รับชุดอาหารเช้ามา 1 ถุง ประกอบด้วย ครัวซอง 2 ชิ้น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1 ลูก น้ำผลไม้ 1 กล่อง นม 1 กล่อง แต่กินไม่หมดเพราะกลัวว่าจะจุก

เริ่มวิ่ง

มาถึงงานตีห้ากว่า ๆ ไม่ช้าไม่เร็ว ระหว่างรอเช็คอินก็วอร์มอัพไปเรื่อย ๆ โดยการวิ่งเหยาะ ๆ สลับเดิน พอใกล้ถึงเวลาเข้าจุดสตาร์ท จัดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้พร้อมใช้งาน แล้วก็เดินเข้าจุดสตาร์ทไปอย่างมั่นใจ Forerunner 10 กด Start แป๊บเดียวก็พร้อมใช้งาน คงเพราะมันเป็นที่โล่ง

เมื่อนับถอยหลังเรียบร้อย ค่อย ๆ เดินจนถึงเส้นสตาร์ทแล้วก็เริ่มออกวิ่ง รู้สึกว่าสภาพร่างกายวันนี้ดีจัง ท่าทางจะวิ่งได้ดี

ซุ่มโจมตี

ปรกติผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีปัญหากับการขับถ่าย และไม่ค่อยจะถ่ายตอนเช้าเท่าไหร่ แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้น วิ่งได้ประมาณกิโลเมตรกว่า ๆ รู้สึกเหมือนโงกุนโดนจับหาง ขนลุกเกรียว แรง เริงหายหมด เนื่องจากข้าศึกบุกค่อนข้างประชิดเมืองทีเดียว ก็ต้องตัดสินใจว่า เอายังไงดี ห้องน้ำก็ไม่ค่อยมีตามทาง จะยอมแพ้ดีมั้ย ใจคิดอยู่หลายตลบ แต่นี่เป็นฮาล์ฟแรกนะ ดังนั้น ยอมไม่ได้ เอ้า สู้ต่อ! ทนไป พอวิ่งอย่างอ่อนแรงไปได้สักพักอาการก็ดีขึ้น รอดตัวไป

ชุ่มฉ่ำ

หลังจากวิ่งถึงจุดกลับตัวที่ ก.ม.8 สภาพกล้ามเนื้อยังดี แรงยังเหลือ ก็ยังวิ่งต่อไปได้เรื่อย ๆ หยุดพักตามซุ้มให้น้ำ แดดออกแต่ก็ไม่ได้ร้อนมาก ทันยอดแถว ๆ ก.ม.9 พอวิ่งมาถึงรถห้องน้ำ (น่าจะประมาณ ก.ม. 10) ก็ขึ้นไปเบาซะหน่อย เหลืออีกครึ่งทาง จะได้ไม่ต้องลำบากถ้าจำเป็นต้องระบาย คิดว่าจังหวะเข้าห้องน้ำนี่แหละที่ยอดน่าจะแซงผมไป เลี้ยวขวาออกจากถนนใหญ่ ประมาณ ก.ม. 12 มีฝนโปรยเบา ๆ พอให้ผ่อนคลายจากความร้อนได้บ้าง แต่สงสัยจะผ่อนมากไปหน่อยด้วยการเดินบ้าง วิ่งบ้าง ไปเรื่อย ๆ ตามทาง



กิโลเมตรที่ 15 แล้ว

ฟื้นพลัง

เมื่อแรงเริ่มร่อยหรอ แต่ไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็เดินสลับวิ่งเพราะไม่อยากฝืนมากเกินไปกับฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก สวรรค์มาเยือนที่ ก.ม.16 เป็นซุ้มที่มีทั้งน้ำ และเกเตอเรด ซัดทั้งสองอย่างพอให้สดชื่น แรงกลับมาทำให้วิ่งได้สบาย ๆ อีกครั้ง


อีก 3 กิโลเมตร

ตะคริว

หลังจากคลาดกับยอดเนื่องจากแวะเข้าห้องน้ำ ที่ ก.ม.10 ก็คิดว่ายอดคงวิ่งลิ่วเข้าเส้นชัยไปแล้ว แต่พอวิ่งมาถึง ก.ม.19 เห็นคนนั่งตัวงออยู่ พร้อมน้องทีมงานจัดการแข่งขัน อ้าว! ยอดนี่หว่า ก็เดินเข้าไปดูสอบถามได้ความว่าเริ่มเป็นตะคริวตั้งแต่ ก.ม.17 ทนมาเรื่อย ๆ จนเป็นหนักถึงขั้นลุกไม่ไหวที่ ก.ม.19 นี่แหละ เห็นมีน้องทีมงานช่วยดูแล ก็เลยว่าจะวิ่งเข้าเส้นชัยไปก่อน คิดอีกที อะ เดินเป็นเพื่อนยอดซักพักก่อนดีกว่า ก็เลยเดินคู่กันไปกิโลกว่า ๆ ดูแล้วยอดน่าจะเดินถึง ผมจึงออกวิ่งต่อ



วิ่งไปยิ้มไป

ฟิน… แต่ไม่สุด

ระยะทาง 1 กิโลเมตรสุดท้าย ช่างหวานหอม วิ่งสบาย ๆ ผ่านนักเดินเพื่อสุขภาพไปคนแล้วคนเล่า (ก็เค้าเดินไม่ได้วิ่งนี่) วิ่งไปยิ้มไปตลอดทาง จนถึงซอง FINISH รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล แบบว่ามันซึ้งอะ เฮ้ย เราก็ทำได้ ฮาล์ฟมาราธอน แถมวิ่งสบาย ๆ ในเวลา 3 ชั่วโมง พยายามเล็งหาช่างภาพ เห็นหลายกล้องเหลือเกิน เก๊กไม่ถูก ก็เลยวิ่งยิ้มไปเรื่อย ๆ จนเข้าเส้นชัยพร้อมชูกำปั้น "กูทำได้แล้ว!" เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายจริง ๆ ซ้อมมาหลายเดือน สำเร็จแล้วโว้ย!


จากนั้นก็ไปคืน chip และเดินหาเหรียญเงิน สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จในครั้งนี้ เดินไปเดินมาได้คำตอบว่า "เหรียญหมด" ความฟินเมื่อกี๊มันหายไปเกลี้ยงเลย แง้ เหรียญตู ได้ยินน้องทีมงานบอกว่ามีผู้สมัคร Walk-in เยอะจนเกินจำนวนเหรียญ อืม… ผมก็ต้องทำใจนะ วิ่งช้ากว่าเค้า อดเหรียญ ณ จุดนี้ แต่ไม่เป็นไร รอเค้าส่งมาให้ก็ได้

หลังจากนั้นก็ไปเก็บของที่ที่พักและไปเที่ยวรอเวลาเดินทางกลับ อ้อ! ผมลืมของไว้ที่ At Panta ด้วย แต่คุณกิ๊บ สาวน้อยผู้ใจดีช่วยเก็บขึ้นมาคืนให้ที่กรุงเทพฯ ขอแสดงว่าซึ้งใจไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับผม

ผลการวิ่ง


http://app.strava.com/activities/59935315

Sunday, June 2, 2013

Running Event 2013-06-02 : ผ่านศึกทองผาภูมิ มินิมาราธอน ครั้งที่ 1

เป็นรายการวิ่งที่เพิ่มเข้ามาในคิวได้ไม่นานนัก แต่คิดว่าน่าจะเป็นเส้นทางวิ่งที่ดี เพราะค่อนข้างไกลผู้ไกลคน รถราไม่น่าเยอะนัก อากาศดี

ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. เวลา 6.00น. มีผู้ร่วมอุดมการณ์อีก 3 คน มุ่งหน้าไปที่พัก "สวนป่าทองผาภูมิ" เดินทางถึงที่พักประมาณ 11 โมงกว่า ๆ จัดการสัมภาระเรียบร้อยก็ออกมาลงทะเบียนรับเสื้อและเบอร์ ที่ศูนย์สนับสนุนการฝึกอบรมองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (ผมรับเสื้อมาตั้งแต่สมัครที่งานวิ่งศิริราช ก็เลยมารับเบอร์อย่างเดียว ได้เบอร์ 8) ที่สำคัญที่สุดเนื่องจากเป็นเวลาใกล้เที่ยง และบริเวณงานหาอะไรกินค่อนข้างลำบาก กำลังคิดว่าจะไปที่ตัวอำเภอทองผาภูมิ ปรากฏว่า "ที่นี่แจกข้าวกล่องด้วย" ดีใจน้ำตาไหลปรี่กันเลยทีเดียว

พอกินอิ่ม ก็ต้องไปนอนสินะ เอ... ออกจากผิดหลักสูตรไปนิด แต่อากาศมันร้อนนะ พักหน่อยก็ดี ตื่นมาประมาณ 4 โมงเย็น ก็ไปวิ่งซ้อมเบา ๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพราะเส้นทางวิ่งในสวนป่าทองผาภูมิค่อนข้างจะออกแนว Trail ขึ้น ๆ ลง ๆ ตะปุ่มตะป่ำ เลยไม่อยากทรมานร่างกายมาก เอาแค่ 15 นาทีให้เลือดพอไหลเวียนก็พอแล้ว จากนั้นก็ไปพึ่งร้านสวัสดิการ "คุ้มตะรุเตา" ที่ศูนย์ที่เดิม ราคาไม่แพงนะ แต่ต้องกินตามที่เค้าทำไว้ เลือกไม่ได้ ก็ดีกว่าต้องไปหากินเองที่ตัวอำเภอเยอะเลยแหละ

กินอาหารเย็นเรียบร้อย (ผมซัดไป 2 กล่อง เนื่องจากกลัวพรุ่งนี้ไม่มีแรง) ก็ไปเดินเล่นกันที่เกาะแพพักฝั่งตรงข้ามศูนย์ สัมผัสธรรมชาติกันให้เต็มที่ และสภาพแวดล้อมก็สวยดี ถ่ายรูปเพลินเลย ถ้าฝนไม่ได้ทำท่าจะตกก็คงไม่รีบกลับกัน

ในคืนวันเสาร์ผมเริ่มนอนประมาณ 3 ทุ่มนิด ๆ ประมาณ 4 ทุ่มก็รู้สึกตัวตื่นเพราะไฟดับ คือ... มันเริ่มจะร้อนและยุงตอมก็เลยตื่น แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะมามั้ง ก็เลยทน ๆ นอนต่อไป ปรากฏว่า กว่าไฟจะมาก็ประมาณ 1 ชั่วโมงให้หลัง โดยตอนไฟมา ในใจคิดว่าสงสัยจะตี 1 แล้ว พอกดมือถือดู อ่อ 5 ทุ่มเอง โอเค นอนต่อได้คงไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเกินไป (ก็ไม่รู้ทำไมเวลาอากาศเย็น ๆ เพราะเครื่องปรับอากาศ ยุงมันไม่มาตอมหน้านะ)

ตั้งปลุกไว้ 3 เวลาคือ 4.30น., 4.45น. และ 5.00น. ก็รู้สึกตัวตั้งแต่ 4.30 แต่แอบอู้อีกแป๊บ ค่อยลุกขึ้นมาแปรงฟันและแต่งตัวตอน 4.40น. แล้วรอเวลาให้ถึง 5.00น. ค่อยออกเดินทาง เพราะจุดเริ่มอยู่ห่างจากที่พักแค่ 3.5 กิโลเมตร

เดินถึงที่จัดงานก็วอร์มตามปรกติ และได้ออกวิ่งค่อนข้างตรงเวลา 5.50น. (งานนี้พิธีไม่เยอะ แป๊บเดียวได้ออกวิ่งแล้ว ดีจัง)

และก็เป็นไปตามคาดอากาศที่นี่ดีมาก เย็นสบาย และที่สำคัญที่สุดคือทางวิ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของภูเขา ทำให้ไม่มีแดดมาโดนขณะวิ่งเลย วิ่งเพลิน ๆ พกกระติกน้ำที่เติมจากบริเวณงานมาก็ดื่มทุกครั้งที่เจอจุดจ่ายน้ำ เจอเนินก็ซอยเท้าหน่อย ทั้งขาขึ้นและขาลง

วิ่งมาถึง กิโลเมตรที่ 6  เพิ่งเห็นว่าเค้ามี Gatorade ให้ด้วยเลยหยิบมา 1 ขวด แล้วก็เริ่มเดิน ไม่ได้เหนื่อยมากนะ แต่อยากถ่ายรูปเอาไปอวดคนที่ไม่ได้มาวิ่ง ก็เลยเดินมั่ง วิ่งมั่ง ถ่ายรูปไปตามทาง จนใกล้ถึง กิโลเมตรที่ 8 รีบกิน Gatorade ให้หมด และฝากเจ้าหน้าที่ประจำจุดจ่ายน้ำทิ้ง เพราะถือมา 2 กิโลเมตร ชัดจะเมื่อย

ก่อนถึงเส้นชัยมีคุณพี่ผู้หญิงแซวว่า นี่ชั่วโมงยี่สิบกว่านาทีแล้วนะ เราก็ยิ้มตอบ คิดในใจว่า "ก็วิ่งช้าจริงครับคุณพี่ ผมแอบอู้เยอะไปหน่อย อิอิ"

หลังจากได้รับเหรียญรางวัลและกินน้ำ กินอาหารกันเต็มคราบแล้ว (ที่นี่เค้าจัดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกินกันสบาย ๆ ในเต๊นท์ด้วยนะ) จึงกลับที่พักและเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ก่อนกลับแวะเขื่อนเขาแหลมครู่หนึ่ง พอขึ้นไปถึงสันเขื่อน เห็นวิวแล้วคิดว่า อืม... สวยจัง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยป่าจำนวนไม่น้อยเลยนะเนี่ย ไหน ๆ ก็มาแล้ว เลยคว้ากล้องมาถ่ายซะหน่อย ได้ภาพสวยกลับบ้านพอสมควร

แวะพักกินข้าวเที่ยงกันที่ "ครัวผักหวานบ้าน" ก็อร่อยดีนะ ทำอาหารได้รสชาติดี กว่าจะถึงบ้านก็หกโมงได้ เพราะรถติดมาก ได้เวลาพักผ่อน คร่อกกก...