Saturday, October 26, 2013

Running Event 2013-10-27 : PTT Group Marathon 2013

Race #25 : Half Marathon #7 : PTT Group Marathon 2013

ก่อนแข่ง
ก่อนเดินทางวันเสาร์ ก็ยังไปวิ่งซ้อมที่สวนรถไฟตามปรกติด้วยระยะ 6 กิโลเมตรสบาย ๆ จากนั้นก็เดินทางไปแวะกินข้าวกลางวันที่กลางมอเตอร์เวย์ และตรงเข้าที่พักที่ Phavina Serviced Residence อยู่ติดถนนสุขุมวิท ประทับใจ Phavina ตรงที่มีรูปลั๊กให้เยอะดี เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มีอุปกรณ์และที่ชาร์จติดตัวเยอะอย่างผมและเพื่อนร่วมทริป

เมื่อเก็บของไว้ที่ห้องพักเรียบร้อย จึงออกเดินทางไปงานวิ่งที่สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ (งานจัดหน้าสนามฟุตบอล ปตท.​ระยอง) ไปกัน 4 คน มีปัญหาตอนรับ Bib อยู่ 1 คน เพราะผู้จัดงานสะกดชื่อผิดทำให้หาไม่เจอ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี

จากนั้นก็ไปโหลดคาร์บกันที่ Sizzler ในศูนย์การค้าแหลมทอง (แนะนำห้างโดยน้องเจ้าถิ่นที่แสนน่ารัก) กินอิ่มกันจนไม่รู้จะอัดอะไรเข้าไปได้อีก แต่ตอนเย็นก็ยังไปกินอาหารที่แหลมเจริญซีฟู้ดร้านแรก ปิดท้ายวันด้วยการเยี่ยมชมกิจการของเพื่อนน้องเจ้าถิ่น และกลับไปดู Liverpool ได้ครึ่งนึงก่อนที่จะนอนประมาณ 4 ทุ่มนิด ๆ

วิ่งกันแต่เช้าตรู่
เวลาออกตัวของ Half Marathon คือ 4.30น. เนื่องจากที่พักอยู่ไม่ไกลจุดออกตัวนัก จึงไปถึงซะเฉียดฉิว ได้วอร์มประมาณ 10 นาทีนิด ๆ แต่เนื่องจากไม่รีบอยู่แล้วตอนออกตัวก็ค่อย ๆ ไปเกาะกลุ่ม (ท้าย ๆ)

ไม่ต้องพูดถึงแดด เพราะกว่าแดดจะมานี่ก็หลังจากกลับตัวที่ครึ่งระยะทางมาแล้ว ออกตัวเช้า ๆ มันก็ดีอย่างนี้แหละ วิ่งสบายไม่ถูกแดด

แต่ก็มีข้อเสียคือ ช่วง กิโลเมตรที่ 3 ถึง 8 มืดสุด ๆ และไม่ได้กั้นกรวยไว้ด้วย ผมคิดว่าตรงนี้ค่อนข้างอันตราย การกั้นกรวยก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่นักวิ่งอาจจะต้องช่วยด้วยคือสวมใส่เสื้อผ้าสีสะท้อนแสง หรือมีอุปกรณ์สะท้อนแสง (มีแสงในตัวได้ยิ่งดี)

เนิน เนิน และเนิน
สนามนี้เป็นทางตรง ตรงแบบตรงจริง ๆ นะ  ตรงแหนว ไม่มีเลี้ยว ไม่มีเฉียงเลย วิ่งบนถนนใหญ่ เส้น 3191 พอถึงจุดกลับตัวก็กลับมาทางเดิม แต่คนละข้าง

สิ่งที่เป็นจุดเด็ด ไม่ใช่เด่นนะ เด็ดเลย ของสนามนี้คือเนินมากมายที่รอท้าทายนักวิ่ง ช่วงก่อนกลับตัวนี่เด็ดเลย ขึ้นสุดลงสุด เห็นกันจะ ๆ อย่างนั้นเลย ก็ได้แต่สวมหัวใจหอยทากวิ่ง ๆ คลาน ๆ ไป

ที่ประมาณ กิโลเมตรที่ 19 น่องซ้ายมีกระตุกเล็ก ๆ แต่ไม่เป็นปัญหาอะไร สามารถวิ่งต่อได้ด้วยเพซเดิม

สรุป
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่วิ่งได้ดี คิดว่ามีหลายองค์ประกอบที่เกื้อหนุน ตั้งแต่ออกตัวเช้าตรู่ ไม่โดนแดด มีแรงขับจากเพื่อนนักวิ่ง และการนอนที่ค่อนข้างพอเพียง (ผมว่ายังน้อยไปนิด) แม้ว่าจะเจอเนินมากมายแต่ก็ไม่มีหมดแรง

สถิติในวันนี้คือ 2 ชั่วโมง 39 นาที 43 วินาที ก็ไม่เลวนักสำหรับทางเนินขนาดนี้ ^_^

ถ้าไม่ติดขัดอะไรปีหน้าก็ว่าจะมาวิ่งอีก กับสนามนี้ครับ วิ่งสนุกดี ได้ทดสอบสมรรถนะของเกียร์ของตัวเอง รถน้อย และไม่หลงแน่ ๆ ตรงโลด

อ้อ... ต้องบันทึกไว้ด้วยว่าความรวดร้าวหลังแข่งวันนี้ก็คือ ปวดกล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) ไป 3 วัน โดยแอบไปซ้ำด้วยการวิ่ง 6 กิโลเมตรในวันอังคาร ก็ไม่ได้ทำให้เจ็บเพิ่มนะ เหมือนกล้ามเนื้อจะชอบเสียด้วยซ้ำ

Sunday, October 13, 2013

Weekly Training Summary 2013-10-07 to 2013-10-13

สัปดาห์นี้ได้ซ้อมครบ 4 วัน (นาน ๆ จะทำได้ครบซักที)

วันอังคารที่ 8 ต.ค. 2556 : วิ่ง 5 โล
วันนี้ปล่อย BB (Brain-Body) ทำงานวิ่งไปตามที่สมองและร่างกายสั่ง โดยไม่ต้องดู pace มีพักเดินกินน้ำที่ 2 และ 4 กิโลเมตรแป๊บเดียว มีฝนโปรยเล็กน้อยก่อนถึงระยะ 2 กิโลเมตร แต่พอหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยรู้สึกว่ามีฝน เพราะเหงื่อมันออกมากกว่าฝนที่ตกลงมาเสียอีก พอจบกิโลเมตรที่ 5 ก็วิ่งเหยาะ ๆ สักพักจึงกดหยุดและเดินคูลดาวน์ต่ออีกประมาณ 700 เมตร แล้วค่อยยืดเหยียด

รอบนี้วิ่งเหนื่อยอยู่นะ แต่ก็ไม่มากน่าจะ zone 2 ถึง 3 ปลาย ๆ (ยังไม่ได้หา Heart rate monitor มาใช้ก็งี้ เดา ๆ เอาต่อไป) ไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ เหมือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะปรับวิธีการผูกปมเชือกรองเท้าให้หลวมขึ้นนิดหน่อยจะได้ไม่รัดข้อเท้ามากเกินไป แต่ผูกตัวปมให้แน่นโดยการผูกสองทบ ซึ่งก็ใช้การได้ดีแน่นจนถึงบ้านเลย

วันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค. 2556 : วิ่ง 8 กิโลเมตร
วิ่งด้วย BB (ที่ไม่ใช่ BlackBerry) ไม่เหนื่อยมาก พักเดินทุก 2 กิโลเมตร ประมาณ 30 - 60 วินาที

วันเสาร์ที่ 12 ต.ค. 2556 : วิ่ง 5 กิโลเมตร
วิ่งเป็นเพื่อนนักวิ่งหน้าใหม่ที่ต้องการวิ่งให้ได้ครบ 5 กิโลเมตร และวันนี้เค้าก็สามารถทำได้สำเร็จด้วย

กิโลเมตรแรกผมวิ่งคนเดียวเพราะตื่นสาย ต้องตามมาสมทบทีหลัง เลยรีบวิ่งลัดเลนกลาง (ขอโทษคร้าบ) ไปเจอเพื่อนก่อน จากนั้นก็วิ่งด้วยอัตราเร็วของเจ้าตัวเลย

วันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค. 2556 : วิ่งยาว 16 กิโลเมตร
วันนี้ลองของใหม่ 2 อย่าง คือ เป้น้ำ 3 ลิตร (แต่ใส่น้ำมาประมาณ 2.5 ลิตร) วิ่งไปก็เขินไป เพราะเสียงน้ำกระฉอกดังมาก โผลก ๆ ๆ ๆ ตลอดทาง

ของใหม่อีกอย่างก็คือ Clif Organic Gel แวะกิน Gel ตอน 8 กิโล เพราะมีถังขยะให้ทิ้งซองพอดี รสชาติดีทีเดียวแหละ

วิ่งจนครบระยะน้ำก็ยังไม่หมด แต่มาหมดตอน Cool down แสดงว่าคิดถูกแล้วที่ซื้อขนาด 3 ลิตร ไม่งั้นไม่พอกินแน่ แต่นี่แค่ 16 กิโลเองนะ ถ้าซ้อม 30+ โลก็คงต้องเติมอยู่ดีแหละ

สรุป
เพซการวิ่งยาวสัปดาห์นี้อยู่ที่ 8 นาที 19 วินาที ถ้าสามารถคงเพซไว้ได้ ก็จะจบมาราธอนที่ 5 ชั่วโมง 50 นาที 55 วินาที

การวิ่งรู้สึกว่ายังเหนื่อยอยู่มาก แต่คิดว่าไม่ควรจะวิ่งช้ากว่านี้แล้ว อาจจะต้องเพิ่มการฝึก Interval เพื่อเพิ่มความอึด