วันเสาร์ที่ 20 ต.ค. 55
หลังจากที่ได้วิ่งมินิมาราธอนรายการแรกไปเมื่อต้นเดือน ก.ย. 2555 ก็รู้สึกว่าตัวเองยังสนใจในการวิ่ง และต้องการเข้าร่วมการวิ่งไปเรื่อย ๆ จึงเล็งหางานวิ่งถัดไป โดยตั้งใจว่าจะร่วมงานวิ่งเดือนละครั้ง สำหรับเดือน ต.ค. 2555 ก็มาลงตัวที่ "Amari Watergate & BMW Midnight Run 2012"
งานนี้มี 2 ระยะคือ 6 กิโลเมตร และ 12 กิโลเมตร โดยออกตัวพร้อมกันตอนเที่ยงคืนเป๊ะ และแน่นอน ผมเลือก 12 กิโลเมตร
ประมาณสามทุ่มวันงาน ผมเอารถไปจอดที่ Big C ประตูน้ำ ตามคำแนะนำของน้องที่มาร่วมวิ่งด้วย จากนั้นก็เดินไปโรงแรม Amari Watergate แล้วก็นั่งรอเวลาออกตัว
การออกตัวค่อนข้างทุลักทุเล เพราะคนเยอะมาก และจะต้องขึ้นมาจากชั้นใต้ดินของโรงแรม กว่าผมจะขึ้นมาถึงเส้นเริ่มก็กินเวลาไปหลายนาทีแล้ว แต่พอออกมาจากโรงแรมได้ก็ค่อนข้างโล่ง ทางกว้างเพราะเจ้าหน้าที่ช่วยกันถนนไว้หลายเลน จุดให้น้ำของงานนี้ก็ทำได้ตามมาตรฐานครับ มีน้ำและแก้วพร้อมทุกที่ (ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตระหนักถึงการเป็น Green Runner) ประมาณกิโลเมตรสุดท้ายผมเจอนักวิ่งแฟนซีใส่ชุดเกราะหนัง ถือดาบกับโล่ด้วย โห... เก่งอะ ผมวิ่งตัวเปล่ายังวิ่งช้ากว่าเค้าเลย
พอถึงเส้นชัย ผมว่าค่อนข้างวุ่นวายนิดหน่อย เห็นคนมุง ๆ กัน นึกว่ารับเหรียญ ผมเดินเข้าไปได้รับแจกกระดาษเล็ก ๆ มา 1 แผ่น ให้เขียนชื่อและที่อยู่เพื่อจัดส่งเหรียญไปให้ แต่ผมเรื่องเยอะ เลยถามเค้าว่ามารับเองได้มั้ย เพราะอยู่ไม่ไกลที่ทำงานมาก เค้าบอกว่าได้ ก็โอเค เก็บใบไว้เฉย ๆ เป็นหลักฐานว่าเราก็วิ่งถึงนะ (ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้มีประโยชน์อะไร 555)
หลังเส้นชัยมีอาหารและน้ำที่ทางโรงแรมจัดให้ อิ่มหนำกันสบายเลย
สถิติของงานนี้ 12.46 กิโลเมตร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 26 นาที 41 วินาที Pace เฉลี่ย 6 นาที 58 วินาที ต่อกิโลเมตร
หลังจากนั้น 1 เดือนผมถึงจะได้เดินทางไปรับเหรียญที่โรงแรม Amari Watergate
Thursday, February 28, 2013
Running Event 2012-09-02 : เหรียญแรก
วันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย. 55
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นโอกาส หรือลิขิตจากฟ้าให้ผมได้เดินตามทางที่เคยฝันไว้อีกครั้ง
ประมาณต้นเดือน ส.ค. 2555 เจ้าจิ๊ป น้องที่ทำงานเดินมาถามว่า "พี่กานต์วิ่งมินิมาราธอนการกุศลมั้ยคะ พี่เดือนซื้อบัตรมาหลายใบ" ผมได้ยินตัวเองตอบไปโดยไม่ผ่านสมองว่า "เอาสิ" ก่อนที่จะได้รับรู้ในเวลาต่อมาว่างานวิ่งครั้งนั้นก็คือ "Central Retail Mini Marathon 2012"
จากนั้นก็เริ่มซ้อมโดยการวิ่ง (สลับเดิน) ที่สวนรถไฟกับน้องสาว (และคุณแม่ เป็นบางวัน)
วันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค. 2555 วิ่งได้ 9.09 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 19 นาที 50 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 8:47 นาทีต่อกิโลเมตร
วันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. 2555 วิ่งได้ 10.22 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 26 นาที 40 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 8:29 นาทีต่อกิโลเมตร
ซ้อมได้แค่ 2 สัปดาห์ก็ถึงวันลงสนามจริง วันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย. 2555
ตื่นแต่เช้าตรู่ ขับรถไปจอดที่ CTW แล้วก็มารอเจ้าจิ๊ปเอาบัตรมาให้ เพื่อนำไปลงทะเบียนรับเบอร์ (เสื้อได้รับก่อนหน้านั้นแล้ว) เป็นงานวิ่งงานแรก แอบตื่นเต้นนิด ๆ ที่เห็นคนเยอะแยะมากมาย มีการแข่งขัน 2 ระยะคือวิ่ง 10.5 กิโลเมตร และเดิน 3 กิโลเมตร โดยมีน้อง ๆ ที่ออฟฟิศมาร่วมงานกันหลายคน แต่มี 2 คนมาช้าเนื่องด้วยเหตุบางประการ ทำให้ผมไม่ได้ออกตัวพร้อม ๆ กับนักวิ่ง 10.5 กิโลเมตร (ด้วยความที่ยังไม่รู้ธรรมเนียมการออกตัวเท่าไหร่ ทำให้ประมาท ไม่ได้ไปอยู่ที่ ๆ ออกตัวพร้อมคนอื่น) แต่ได้มาออกตัวพร้อมนักเดิน 3 กิโลเมตรแทน ทำให้ติดขัดอยู่นาน กว่าจะสามารถแซงนักเดินเพื่อเข้าทางวิ่งได้
อาจจะเพราะว่าพวกผมออกตัวช้า เลยทำให้ต้องวิ่งบนฟุตบาทบ้าง การวิ่งเลยค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็พยายามไล่จนทันกลุ่มใหญ่ ทำให้มีผู้อำนวยความสะดวกในการวิ่งมากขึ้น
พอเข้าเส้นชัยปุ๊บก็มีเจ้าหน้าที่แจกเหรียญให้ทันที ขอบอกว่าไม่รู้ว่ามีเหรียญให้ด้วย พอได้เหรียญมา มันรู้สึกว่า เออ น่าสะสมดีแฮะ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมเข้าแข่งวิ่งในรายการต่อ ๆ ไป
สถิติที่ได้ในวันนี้คือ วิ่งได้ 10.60 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 17 นาที 38 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 7:19 นาทีต่อกิโลเมตร
สำหรับงานวิ่ง "Central Retail Mini Marathon 2012" นี้ ผมคิดว่าจัดได้ไม่เลวนะ พื้นที่บริการ ณ จุดออกตัวมีพอเพียงกับนักวิ่ง (หน้า CTW กว้างมาก) การบริการน้ำดื่มก็ทำได้ดีไม่ตกหล่นอะไร เหรียญมีไม่เท่าจำนวนนักวิ่ง แต่ก็มากพอที่จะเหลือให้คนวิ่งช้า ๆ แบบผม อาหารหลังจากเข้าเส้นชัยก็พอเพียง และอร่อยดี แหะ ๆ
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นโอกาส หรือลิขิตจากฟ้าให้ผมได้เดินตามทางที่เคยฝันไว้อีกครั้ง
ประมาณต้นเดือน ส.ค. 2555 เจ้าจิ๊ป น้องที่ทำงานเดินมาถามว่า "พี่กานต์วิ่งมินิมาราธอนการกุศลมั้ยคะ พี่เดือนซื้อบัตรมาหลายใบ" ผมได้ยินตัวเองตอบไปโดยไม่ผ่านสมองว่า "เอาสิ" ก่อนที่จะได้รับรู้ในเวลาต่อมาว่างานวิ่งครั้งนั้นก็คือ "Central Retail Mini Marathon 2012"
จากนั้นก็เริ่มซ้อมโดยการวิ่ง (สลับเดิน) ที่สวนรถไฟกับน้องสาว (และคุณแม่ เป็นบางวัน)
วันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค. 2555 วิ่งได้ 9.09 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 19 นาที 50 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 8:47 นาทีต่อกิโลเมตร
วันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. 2555 วิ่งได้ 10.22 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 26 นาที 40 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 8:29 นาทีต่อกิโลเมตร
ซ้อมได้แค่ 2 สัปดาห์ก็ถึงวันลงสนามจริง วันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย. 2555
ตื่นแต่เช้าตรู่ ขับรถไปจอดที่ CTW แล้วก็มารอเจ้าจิ๊ปเอาบัตรมาให้ เพื่อนำไปลงทะเบียนรับเบอร์ (เสื้อได้รับก่อนหน้านั้นแล้ว) เป็นงานวิ่งงานแรก แอบตื่นเต้นนิด ๆ ที่เห็นคนเยอะแยะมากมาย มีการแข่งขัน 2 ระยะคือวิ่ง 10.5 กิโลเมตร และเดิน 3 กิโลเมตร โดยมีน้อง ๆ ที่ออฟฟิศมาร่วมงานกันหลายคน แต่มี 2 คนมาช้าเนื่องด้วยเหตุบางประการ ทำให้ผมไม่ได้ออกตัวพร้อม ๆ กับนักวิ่ง 10.5 กิโลเมตร (ด้วยความที่ยังไม่รู้ธรรมเนียมการออกตัวเท่าไหร่ ทำให้ประมาท ไม่ได้ไปอยู่ที่ ๆ ออกตัวพร้อมคนอื่น) แต่ได้มาออกตัวพร้อมนักเดิน 3 กิโลเมตรแทน ทำให้ติดขัดอยู่นาน กว่าจะสามารถแซงนักเดินเพื่อเข้าทางวิ่งได้
อาจจะเพราะว่าพวกผมออกตัวช้า เลยทำให้ต้องวิ่งบนฟุตบาทบ้าง การวิ่งเลยค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็พยายามไล่จนทันกลุ่มใหญ่ ทำให้มีผู้อำนวยความสะดวกในการวิ่งมากขึ้น
พอเข้าเส้นชัยปุ๊บก็มีเจ้าหน้าที่แจกเหรียญให้ทันที ขอบอกว่าไม่รู้ว่ามีเหรียญให้ด้วย พอได้เหรียญมา มันรู้สึกว่า เออ น่าสะสมดีแฮะ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมเข้าแข่งวิ่งในรายการต่อ ๆ ไป
สถิติที่ได้ในวันนี้คือ วิ่งได้ 10.60 กิโลเมตร ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 17 นาที 38 วินาที คิดเป็น Pace เฉลี่ย 7:19 นาทีต่อกิโลเมตร
สำหรับงานวิ่ง "Central Retail Mini Marathon 2012" นี้ ผมคิดว่าจัดได้ไม่เลวนะ พื้นที่บริการ ณ จุดออกตัวมีพอเพียงกับนักวิ่ง (หน้า CTW กว้างมาก) การบริการน้ำดื่มก็ทำได้ดีไม่ตกหล่นอะไร เหรียญมีไม่เท่าจำนวนนักวิ่ง แต่ก็มากพอที่จะเหลือให้คนวิ่งช้า ๆ แบบผม อาหารหลังจากเข้าเส้นชัยก็พอเพียง และอร่อยดี แหะ ๆ
Wednesday, February 27, 2013
จุดประกายและการดับฝันในครั้งแรก
เมื่อประมาณปี 2552 เพื่อนผมโพสในเฟสบุ้คเกี่ยวกับการเตรียมตัววิ่งมาราธอนของเธอ ซึ่งผมในฐานะที่เป็นคนออกกำลังกายและชอบเล่นกีฬาอยู่แล้ว จึงได้นัดกันว่าจะไปวิ่งด้วยกันในรายการกรุงเทพมาราธอน 2552
ผมก็อ่านวิธีการเทรนจากเวบของกรุงเทพมาราธอนนี่แหละ แต่คงเทรนผิดวิธี หรือวอร์มไม่ถึง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถซ้อมและวิ่งได้ในปีนั้น
หลังจากนั้นมา ผมก็พยายามสร้างกล้ามเนื้อโดยใช้การว่ายน้ำ เผื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะกลับไปวิ่งได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำสม่ำเสมอ และทำอย่างตั้งใจพอ ว่ายมั่ง หยุดมั่ง ความตั้งใจวิ่งมาราธอนเมื่อครั้งนั้นมันหายไปไหนไม่รู้ จนแล้วจนรอดจนถึงกลางปี 2555 แล้วก็ยังไม่ได้วิ่งกับเค้าสักที
ผมก็อ่านวิธีการเทรนจากเวบของกรุงเทพมาราธอนนี่แหละ แต่คงเทรนผิดวิธี หรือวอร์มไม่ถึง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถซ้อมและวิ่งได้ในปีนั้น
หลังจากนั้นมา ผมก็พยายามสร้างกล้ามเนื้อโดยใช้การว่ายน้ำ เผื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะกลับไปวิ่งได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำสม่ำเสมอ และทำอย่างตั้งใจพอ ว่ายมั่ง หยุดมั่ง ความตั้งใจวิ่งมาราธอนเมื่อครั้งนั้นมันหายไปไหนไม่รู้ จนแล้วจนรอดจนถึงกลางปี 2555 แล้วก็ยังไม่ได้วิ่งกับเค้าสักที
Tuesday, February 26, 2013
เป้าหมายในการวิ่งปี 2556
ปี 2555 เป็นปีที่ผมเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน และถึงปัจจุบันก็วิ่งมินิมาราธอนจบมา 6 รายการแล้ว จึงคิดว่าควรจะบันทึกเป้าหมายที่คิดไว้บ้าง เอาไว้เตือนตัวเอง
เป้าหมายแรกประจำปีนี้ก็คือ "วิ่งมินิมาราธอนภายในเวลา 75 นาที"
ซึ่งตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว จากการไปวิ่งที่เวียงจันทน์ โดยทำเวลาได้ 69 นาที สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือพยายามทำเวลาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายลับ ๆ คือ 60 นาที
เป้าหมายที่สองประจำปีนี้ก็คือ "วิ่งฮาล์ฟมาราธอนให้จบภายในเวลาที่ผู้จัดกำหนด"
กำหนดคร่าว ๆ ว่าถ้าสะสมเหรียญวิ่งมินิมาราธอนครบ 10 เหรียญ จะลองไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอนดู
มาดูกันว่า ปีนี้จะบรรลุเป้าหมายที่สองได้ไหม และเมื่อไหร่
เป้าหมายแรกประจำปีนี้ก็คือ "วิ่งมินิมาราธอนภายในเวลา 75 นาที"
ซึ่งตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว จากการไปวิ่งที่เวียงจันทน์ โดยทำเวลาได้ 69 นาที สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือพยายามทำเวลาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายลับ ๆ คือ 60 นาที
เป้าหมายที่สองประจำปีนี้ก็คือ "วิ่งฮาล์ฟมาราธอนให้จบภายในเวลาที่ผู้จัดกำหนด"
กำหนดคร่าว ๆ ว่าถ้าสะสมเหรียญวิ่งมินิมาราธอนครบ 10 เหรียญ จะลองไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอนดู
มาดูกันว่า ปีนี้จะบรรลุเป้าหมายที่สองได้ไหม และเมื่อไหร่
Subscribe to:
Posts (Atom)